|
|
เตรียมนับถอยหลังสู่ปฐมบทครั้งสำคัญของฮังเกอร์เกมส์ 12 ข้อควรรู้ ที่สุดแห่งปรากฏการณ์ "เกมล่าเกม"เตรียมนับถอยหลังสู่ปฐมบทครั้งสำคัญของฮังเกอร์เกมส์
12 ข้อควรรู้ ที่สุดแห่งปรากฏการณ์ "เกมล่าเกม" The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes 15 พฤศจิกายนนี้ พฤศจิกายนนี้ เตรียมพบกับที่สุดแห่งปรากฏการณ์ "เกมล่าเกม" สู่การแข่งขันครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในแฟรนไชส์เตรียมนับถอยหลังสู่ปฐมบทครั้งสำคัญของฮังเกอร์เกม ด้วย 12 เรื่องควรรู้ ก่อนเข้าสู่ The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes เดอะ ฮังเกอร์เกมส์ ปฐมบทเกมล่าเกม
1) นี่ไม่ใช่ภาคต่อแต่เป็นภาคต้น ในภาคนี้ภาพยนตร์บอกต้นกำเนิด ไม่ใช่แค่ของตัวละครสโนว์ แต่ไปถึงอาณาจักรพาเน็ม ที่มาของฮังเกอร์เกม มันคือการย้อนเวลากลับไป 64 ปีจากไตรภาคหลัก ยุคหลังที่เมืองแคปิตอลเผชิญผ่านสงครามมา และกำลังเข้าสู่ยุคฟื้นฟู 2) ได้ทีมงานจากไตรภาคแรกกลับมาสานต่อความยิ่งใหญ่ “ฟรานซิส ลอเรนซ์” กลับมากำกับภาพยนตร์ The Hunger Games อีกครั้งหลังจากเคยกำกับ ภาค Catching Fire และ Mockingjay – Part 1 และ 2 นอกจากนี้ภาพยตนตร์ยังได้มือเขียนบทภาคที่ดีที่สุดของจักรวาลฮังเกอร์เกมส์อย่าง Catching Fire กลับมาร่วมเขียนบทในภาคนี้อีกด้วย 3) ตัวแทนจากเขต 12 ที่แตกต่างกัน
ตัวละคร “ลูซี เกรย์ แบร์ด” เป็นตัวละครทีบุคลิกตรงข้ามกับ “แคตนิส เอเวอร์ดีน” ลูซี่ เกรย์ เป็นนักแสดง ที่ถูกบังคับให้สู้ ส่วนแคทนิส เป็นนักสู้ที่ถูกบังคับให้แสดง ลูซี เกรย์มีมุมลึกลับในขณะที่แคตนิสส์นั่นเก็บทุกอย่างไว้ในใจ 4) จาก “โดนัลด์ ซูเธอร์แลนด์” สู่ “ทอม บลายธ์” ความคล้ายที่ผู้กำกับการันตี
ฟรานซิส ลอเรนซ์ เผยถึงเหตุผลที่เลือก “ทอม บลายธ์” มารับบทเป็นสโนว์ตอนหนุ่ม เพราะเขามีความคล้ายคลึงกับ “โดนัลด์ ซูเธอร์แลนด์” ผู้รับบทประธานาธิบดีสโนว์ในไตรภาคต้นฉบับ 5) เดินทางไปถ่ายทำถึงยุโรป ภาพยนตร์เดินทางไปถ่ายทำถึงประเทศโปแลนด์และประเทศเยอรมนีสถานที่สำคัญอย่าง อาคาร Centennial Hall มรดกโลกจากเมืองวรอตสวัฟ ฉากห้องส่งถูกถ่ายทำใน Olympic Park ที่เคยใช้จัดการแข่งขันฟันดาบในมหกรรมกีฬาโอลิมปิกปี 1936 ที่เบอร์ลินเป็นเจ้าภาพ 6) การประชันฝีมือของสองนักแสดงระดับรางวัล
“ไวโอลา เดวิส" ถือเป็นนักแสดงยอดฝีมือ ผู้ได้รับรางวัล "Triple Crown of Acting" รับบท “ดร.โวลัมเนีย กอล”เกมเมกเกอร์สุดอำมหิตที่แฝงไปด้วยพิษสง ประชันฝีมือ “ปีเตอร์ ดิงเคลจ” นักแสดงผู้ฝากผลงานทั้งภาพยนตร์ ซีรีส์ จนสร้างชื่อจากซีรีส์สุดยิ่งใหญ่ Game of Thrones ในบท "ทีเรียน แลนนิสเตอร์" จนทำให้เขากวาดรางวัล Emmy Awards ไปถึง 4 ครั้งด้วยกัน ในปฐมบทเกมล่าเกมนี้เขาจะมารับบท “คาสกา ไฮบอตทอม” บิดาแห่งเดอะฮังเกอร์เกมส์ 7) นักแสดงดาวรุ่งสู่แฟรนไชส์ระดับโลก
“ฮันเตอร์ เชเฟอร์” สาวทรานส์นักเคลื่อนไหวผู้โลดแล่นทั้งในวงการภาพยนตร์และนางแบบ จากซีรีส์วัยรุ่นมาแรงอย่าง Euphoria สู่บทบาท “ไทกริส” ผู้บันดาลแฟชั่น ดีไซน์เกมนี้ให้เจิดจรัส ญาติคนสนิทผู้อยู่เคียงข้าง คอริโอเลนัส สโนว์ 8) จุดเริ่มต้นของเพลง The Hanging Tree บทเพลงอันไพเราะที่ “แคตนิส เอเวอร์ดีน” ร้อง มาจาก “ลูซี เกรย์ แบร์ด” เธอเป็นคนแต่งและร้องเพลงนี้ โดยใน “The Hunger Games: The Ballad of Songbirds & Snakes” จะพาผู้ชมย้อนกลับไปถึงที่มาที่ไปของเพลงสำคัญเพลงนี้ 9) “ดอกกุหลาบสีขาว” ตัวแทนของสโนว์ ดอกกุหลาบนั้นเป็นดอกไม้ประจำตระกูลสโนว์ เขาใช้มันเพื่อสื่อสารภาพลักษณ์ความยิ่งใหญ่ ไม่เพียงแค่นั้นกลิ่นของดอกกุหลาบยังเป็นตัวแทนของแม่ผู้ล่วงลับ ซึ่งในช่วงเวลาต่อมามันกลายเป็นตัวแทนความอำมหิตของสโนว์ด้วยเช่นกัน 10)จุดเปลี่ยนของสโนว์ ในภาคนี้เป็นครั้งแรกที่เราจะได้เห็นสโนว์มีความรัก พร้อมกับจุดเปลี่ยนที่ทำให้เข้ากลายเป็นทรราชที่ประชาชนเกลียด 11) ส่วนผสมสุดคอนทราสท์
นักออกแบบเสื้อผ้า บอกว่าลุคของดร.กอล คือส่วนผสมของ “วิลลี่ วองก้า” ผู้เป็นนักวิทยาศาสตร์สติฟั่นเฟื่อง ผสมกับกลิ่นอายความน่ากลัวของ “ดร.แฟรงเกนสไตน์” 12) จากเบอร์ลินสู่ “แคปปิตอล” อูลี ฮานิช นักออกแบบงานของภาพยนตร์เรื่องนี้ เขาได้แรงบันดาลใจในการสร้างสรรค์ Production Design เมืองแคปปิตอลจากเบอร์ลินยุคฟื้นฟู หลังจากสงครามโลกครั้งที่สองในปี 1945 ที่เต็มไปด้วยเครนและตึกที่กำลังก่อสร้างโดยทีมงานถ่ายทำฉากในเมืองหลวงแคปปิตอลเกือบทั้งหมดที่เบอร์ลิน เตรียมพบกับภาพยนตร์ที่ทุกคนรอคอยใน The Hunger Games: The Ballad of Songbirds and Snakes 15 พฤศจิกายนนี้ในโรงภาพยนตร์ |
|