JustMakeWeb.com รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บโรงแรม รับทำเว็บขายของ รับทำเว็บบริษัท เว็บสำเร็จรูป รับทำเว็บร้านค้า ออกแบบเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย รองรับ SEO โปรโมท GOOGLE ให้ติดอันดับได้อย่างรวดเร็ว , ลงโฆษณาฟรี VPS ราคาถูก
รับทำเว็บไซต์
0

งานแถลงข่าวเปิดตัวโปรเจคสุดยิ่งใหญ่ “ดราก้อนฟลาย 360”



เพราะทุกคนแตกต่างอย่างเท่าเทียม..พบกับปรากฏการณ์ครั้งสำคัญของเมืองไทยที่รวมตัวเหล่าคนดัง
ในงานแถลงข่าวเปิดตัวโปรเจคสุดยิ่งใหญ่ “ดราก้อนฟลาย 360” (Dragonfly 360) โครงการรณรงค์
ขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความเสมอภาคทางเพศ พร้อมส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิงให้เป็นที่ยอมรับ
 
ในยุคปัจจุบันจะเห็นได้ว่าผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาสังคม เศรษฐกิจ และความเจริญหลากหลายด้านในสังคมโลกมากขึ้น รวมถึงการเป็น ‘ผู้นำ’ ไม่ใช่เพียง ‘ผู้ตาม’ ดังเช่นสังคมสมัยก่อน ซึ่งนั่นเป็นเพราะความสามารถทั้งด้านการทำงานและทัศนคติที่มีต่อการใช้ชีวิตที่พวกเธอสามารถแสดงให้เห็นถึงศักยภาพเหล่านั้นได้ ล่าสุด แพม- ประนัปดา พรประภา นักธุรกิจสาวมากความสามารถชื่อดังของเมืองไทย ก็ได้สร้างปรากฏการณ์ครั้งใหญ่ด้วยการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัว “ดราก้อนฟลาย 360” (Dragonfly 360) พร้อมเปิดตัว 5 แบรนด์แอมบาสเดอร์ผู้มีความโดดเด่นและประสบความสำเร็จในชีวิต กับ 5 แนวคิดเพื่อการรณรงค์ขับเคลื่อนสังคมไทยและสังคมเอเชียไปสู่ความเสมอภาคเท่าเทียมในเพศชายและเพศหญิง ที่ศูนย์การค้าสยามพารากอน บริเวณลานแฟชั่นแกลลอรี่ ชั้น 1 เมื่อบ่ายวันก่อน

โดยในงานยังได้รับเกียรติจากแบรนด์แอมบาสเดอร์สาว ซินดี้- สิรินยา บิชอพ, แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา และสาวเก่งแห่งยุค แคท-ซอนญ่า สิงหะ รวมถึงทีมผู้จัดตั้งโครงการ วรนัยน์ วาณิชกะ มาร่วมพูดคุยถึงเป้าหมายของการจัดตั้งโครงการ รวมถึง แพม- ประนัปดา พรประภา, ดร.จุรี วิจิตรวาทการ และณัฏฐา โกมลวาทิน ตัวแทนผู้หญิงเก่งที่ประสบความสำเร็จมาร่วมพูดคุยในหัวข้อ “Why Dragonfly360 is needed in Thailand”

และยังได้รับเกียรติจากเหล่าเซเลบริตี้ที่ให้ความสนใจเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง อาทิ ประณิธาน- ประกาสิทธิ์- แอนดรู พรประภา, กรณ์ ณรงค์เดช, ม.ล.อรดิศ สนิทวงศ์, ภูวนาท คุนผลิน, อลิสา พันธุศักดิ์, ศิตา ชุติภาวรกานต์,    นิสามณี ภิรมย์ภักดี, นภัสนันท์ พสวงศ์, นริพร เคียงศิริ รวมถึงนักแสดงชื่อดัง อาทิ พิมดาว พานิชสมัย, โอซา แวง และอีกมากมาย
แพม- ประนัปดา พรประภา กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการก่อตั้งโครงการครั้งนี้ว่า “เราเชื่อว่าคนทุกคนนั้นจะต้องมีศักยภาพในตนเอง ไม่ว่าคนผู้นั้นจะเป็นหญิงหรือชายก็ตาม ซึ่งก็เห็นได้จากบทบาทหน้าที่ของคนดังในระดับโลกที่มีทั้งหญิงชายปะปนกันไป ดังนั้นเราจึงอยากสร้างแรงขับเคลื่อนในสังคมไทยและสังคมเอเชียให้ได้ตระหนักถึงความเสมอภาค เพราะก็มีผู้หญิงหลายคนที่เก่งและมีศักยภาพมากพอที่จะลุกขึ้นมาทำประโยชน์เพื่อตนเอง ครอบครัว และสังคมได้ และการจัดตั้งโครงการครั้งนี้นอกจากจะเป็นการรณรงค์เรื่องความเสมอภาคทางเพศแล้ว เรายังอยากสร้างพลังให้กับผู้หญิงหลายๆ คน ได้ลุกขึ้นมาใช้ชีวิตในแบบของตนเอง เพื่อเป็นการสร้างแรงบันดาลใจให้กับคนรุ่นหลังได้ปฏิบัติตาม โดยเราหวังว่าโครงการนี้จะได้การตอบรับและการสนับสนุนที่ดีจากทุกคน เพราะยิ่งถ้าคนร่วมกันสนับสนุนมากเท่าไหร่ก็จะยิ่งเกิดเป็นพลังและแรงขับเคลื่อนได้มากขึ้นเท่านั้น”

ด้าน วรนัยน์ วาณิชกะ ทีมผู้จัดตั้งโครงการร่วมพูดคุยถึงความเท่าเทียมทางเพศของคนในสังคมว่า “ความจริงแล้วสังคมไทยเรายังมีค่านิยม หรือชุดความคิด (Mind Set) ที่ยังมองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่อ่อนแอ และมีข้อจำกัดมากกว่าผู้ชายเอง ซึ่งความเสมอภาคนี้เราสามารถสร้างขึ้นมาได้ โดยการเปลี่ยงแปลงทัศนคติของคนในสังคมต่อความเสมอภาคของชายและหญิง โดยเริ่มจากการปลูกฝังของคนในครอบครัว ผ่านการอบรมสั่งสอน และตัวอย่างแสดงให้เห็น ด้านสถาบันการศึกษาที่ควรวางพื้นฐานและสร้างความเข้าใจต่อความเสมอภาคทางเพศมากยิ่งขึ้น และวงการบันเทิงเองควรผลิตผลงานที่ไม่ตอกย้ำค่านิยมผู้ชายเป็นใหญ่กว่าผู้หญิงด้วย เพื่อสร้างสังคมที่เสมอภาคให้ทุกคน ทุกเพศเท่าเทียมกัน”

โครงการ “ดราก้อนฟลาย 360” (Dragonfly 360) โดยนักธุรกิจสาว แพม-ประนัปดา พรประภา ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานกรรมการ โครงการน้ำดีเพื่อสังคมที่ถูกจัดตั้งขึ้นเพื่อรณรงค์ในการขับเคลื่อนสังคมไทย และสังคมเอเชียไปสู่ความเสมอภาคทางเพศ โดยสะท้อนจากมุมมองของคนที่ประสบความสำเร็จถ่ายทอดผ่าน 5 แนวคิดหลักของการใช้ชีวิต โดยนำเสนอผ่าน    แบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้ง 5 คน ได้แก่ ซินดี้-สิรินยา บิชอพ, แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา, โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล, เชอรี่-เข็มอัปสร สิริสุขะ และวู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา บุคคลที่ประสบความสำเร็จในด้านต่างๆ ที่ได้มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างแรงบันดาลใจและเป็นแรงผลักดันให้ผู้หญิงทุกคนสามารถดึงจุดเด่นและศักยภาพของตนเองออกมา เพื่อต้องการยกระดับคุณภาพชีวิตของทุกคนในสังคมให้ดีขึ้น
สำหรับบทบาทและหน้าที่หลักของแบรนด์แอมบาสเดอร์ทั้ง 5 คน ผู้เป็นตัวแทนจาก 5 แนวคิดของคนยุคใหม่นั้นประกอบไปด้วย ซินดี้- สิรินยา บิชอพ เจ้าของแนวคิด BE EDUCATED สาวเก่งมากความสามารถผู้ที่เชื่อว่าการเรียนรู้เป็นเครื่องมืออันทรงพลังในการสร้างความเท่าเทียมทางเพศได้อย่างยอดเยี่ยม ‘เราเชื่อว่าการศึกษาจะช่วยสร้างการเปลี่ยนแปลงชุดความคิด (Mind Set) ที่ถูกปลูกฝังว่าผู้หญิงต้องด้อยกว่าผู้ชาย เพราะผู้หญิงมีความอ่อนแอกว่าผู้ชาย รวมทั้งการถูกคุกคามทางเพศ และการกดขี่ข่มเหงผู้หญิง พร้อมทั้งถูกตราหน้าว่าสาเหตุของปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้นเพราะผู้หญิงเอง ซึ่งเราควรให้การเรียนรู้ใหม่ เพื่อก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชุดความคิดเหล่านี้ ทั้งในตัวของผู้ใหญ่เอง และสำคัญคือควรปลูกฝังให้กับเด็กรุ่นใหม่ให้มีชุดความคิดในเรื่องความเท่าเทียมทางเพศที่ถูกต้องและมีความจริงจังมากขึ้น” ต่อมาที่สาวเก่งแห่งวงการแฟชั่น แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา กับแนวคิด BE FINANCIALLY INDEPENDENT แนวคิดด้านการใช้ชีวิตที่มุ่งมั่นทำงานด้วยตนเองจนประสบความสำเร็จ และเป็นที่ยอมรับในสังคม “การที่ผู้หญิงมีอิสรภาพทางการเงินแน่นอนว่าเราสามารถทำในสิ่งที่ต้องการได้ การที่เราสามารถตอบสนองความต้องการของตนเองได้นั้น มันทำให้ผู้หญิงเราเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง รวมทั้งรับรู้ถึงศักยภาพและมองเห็นคุณค่าในตัวเราเอง” ต่อมาที่ BE YOURSELF สาวมั่นผู้ฉีกกรอบภาพจำที่สังคมอยากให้เป็น โดย โอปอล์-ปาณิสรา อารยะสกุล พิสูจน์ความสามารถจากแนวคิดและตัวตนที่ชัดเจน “เราอยากให้ทุกคนมีความเป็นตัวของตัวเอง มีความมั่นใจในศักยภาพของตนเอง และแสดงมันออกมาอย่างมั่นใจ” คนต่อมานักแสดงชื่อดัง เชอรี่- เข็มอัปสร สิริสุขะ ตัวแทนแนวคิด BE A ROLE MODEL ผู้เป็นแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ด้วยการนำเสนอบรรทัดฐานให้คนในสังคมก้าวข้ามทัศนคติทางเพศแบบเดิมๆ ที่เป็นไปในทางลบ “เราเชื่อว่าพวกเราทุกคนควรตระหนักถึงการปฏิบัติตัวให้ดีทั้งความด้านคิดและการแสดงออก เพื่อการเป็นต้นแบบที่ดีให้กับคนในสังคม พร้อมช่วยกันขับเคลื่อนไปสู่สังคมที่มีความเท่าเทียมอย่างมีประสิทธิภาพ” ปิดท้ายที่ วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา พิธีกรชื่อดังผู้มีความเชื่อมั่นในสิทธิมนุษยชน ผู้มาพร้อมแนวคิด BE THE CHANGE ที่ต้องการสร้างจุดเปลี่ยนทางความคิดเกี่ยวกับความเสมอภาคทางเพศในสังคมไทยให้เป็นที่ยอมรับ “การรวมพลังกันของคนในสังคมไทยเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการกระตุ้นความเป็นผู้นำแก่ทุกคน เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงทัศนคติและชุดความคิดแบบเดิมของคนในสังคม ให้ก้าวไปสู่สังคมที่มีความเท่าเทียมกันเกิดขึ้น”

นอกจากนี้เหล่าเซเลบริตี้ยังได้ร่วมแบ่งปันทัศนคติเรื่องความเท่าเทียมทางเพศ รวมถึงคุณสมบัติของผู้หญิงเก่งในอุดมคติ เริ่มที่เซเลบริตี้สาวเก่ง ม.ล.อรดิศ สนิทวงศ์ เล่าว่า “ผู้หญิงเก่งในอุดมคติของเราต้องมีลักษณะเป็นคนที่เข้มแข็งแต่ทว่าก็มีความอ่อนโยน มีความสามารถหลากหลายด้าน และสามารถใช้เสน่ห์ความเป็นผู้หญิงคือความนุ่มนวล ใจเย็นควบคู่ไปความเด็ดขาดด้วย ซึ่งตอนนี้เราก็มีหน้าที่ทั้งการทำงานและต้องดูแลลูกๆ ซึ่งเราก็พยายามทำหน้าที่ทั้งสองให้ดีไม่มีข้อบกพร่อง ด้านการทำงาน ตัวเราเองจะเป็นคนที่ค่อนข้างเพอร์เฟคชั่นนิสเพื่อความสมบูรณ์แบบของงานที่ออกมาโดยเรามองว่าการที่เราจะเป็นผู้หญิงที่เก่งได้ต้องเริ่มจากการให้เกียรติตนเองก่อน การยอมรับและมีศักดิ์ศรีในตนเองนั้นเป็นสิ่งสำคัญ ส่วนการเลี้ยงลูกเรามักจะเน้นย้ำเขาเสมอเรื่องของความกตัญญูกตเวที และเราก็จะสอนเขาด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดี (Role Model) ให้เขาซึมซับและปฏิบัติตาม”

ถัดมาที่นักธุรกิจสาวสวย ศิตา ชุติภาวรกานต์ เผยว่า “ส่วนตัวเรามองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่ความเข้มแข็ง สามารถเป็นผู้นำได้ ผู้หญิงเก่งในความคิดเราควรมีคุณสมบัติ คือกล้าตัดสินใจ และลงมือทำได้ในทันที โดยส่วนตัวการทำงานเราจะยึดหลักการพึ่งพาตนเองเป็นหลักเชื่อมั่นในตนเองว่ามีศักยภาพและสามารถนำทีมงานของเราไปสู้เป้าหมายที่ตั้งไว้ได้ ซึ่งความเชื่อมั่นในตนเองนี้เป็นคุณสมบัติสำคัญที่เรามองว่าจะทำให้ผู้หญิงเราประสบความสำเร็จได้”

ต่อมาที่หนุ่มนักธุรกิจ กรณ์ ณรงค์เดช เผยว่า “เรามองว่าผู้หญิงเป็นเพศที่เก่ง อย่างคุณแม่เราเองเป็นคนเก่ง สามารถจัดการเรื่องการทำงานและชีวิตครอบครัวได้อย่างสมดุล ฉีกกรอบแม่บ้านแบบเก่าๆ ที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้าน แล้วให้ผู้ชายเลี้ยงดู ซึ่งคุณแม่ท่านสามารถทำให้เราได้เห็นว่าแม้ว่าท่านจะเป็นผู้หญิงแต่ก็สามารถจัดการชีวิตของตนเอง ครอบครัว และทำงานได้อย่างสมบูรณ์แบบ ซึ่งเราอยากฝากถึงผู้หญิงทุกคนให้เชื่อมั่นในตนเองว่าทุกคุณมีศักยภาพและความสามารถ เพียงแค่คุณกล้าที่จะลงมือทำมัน โดยที่ไม่ต้องมองว่าตนเองจะเป็นเพศไหน เพราะทุกคนนั้นเท่าเทียมกัน”
 

 
ปิดท้ายที่คู่รักครอบครัวอบอุ่นที่เผยถึงความเท่าเทียมทางเพศในการใช้ชีวิตคู่  ภูวนาท คุนผลิน - อลิสา พันธุศักดิ์ เล่าว่า “เราเกิดมาในครอบครัวที่คุณพ่อคุณแม่แสดงให้เห็นในเรื่องของความเท่าเทียมกัน โดยไม่มีการแบ่งแยกหน้าที่ของลูกๆ ตามเพศอย่างชัดเจน แต่ลูกจะรับรู้ถึงหน้าที่ของตนเองได้ว่าควรหรือไม่ควรทำสิ่งไหน และภายในครอบครัวของเราจะอยู่ร่วมกันด้วยความรัก และการที่อั๋นกับจ๋าได้มาใช้ชีวิตครอบครัวร่วมกันเหมือนเป็นความลงตัว เพราะเรามีมุมมองต่อสิ่งเหล่านี้ที่เหมือนกัน และอยากถ่ายทอด ปลูกฝังแนวความคิดเรื่องความเท่าเทียมให้ลูกของเราได้เข้าใจเช่นกัน” ด้าน อลิสา พันธุศักดิ์ ยังเสริมว่า “ในการใช้ชีวิตคู่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายควรจะเปิดกว้างและยอมรับซึ่งกันและกัน เพราะในแต่ละเพศก็ล้วนมีจุดเด่นและประโยชน์ในแบบของตนเอง และที่สำคัญคือไม่ควรดูถูกกัน เพราะจะนำมาซึ่งความขัดแย้ง แนวความคิดเรื่องเท่าเทียมทางเพศนี้สามารถเริ่มปลูกฝังจากในครอบครัวก่อนเป็นอันดับแรก ผ่านการอบรมสั่งสอน หรือการแสดงเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น ความจริงแล้วเรามองว่าศักยภาพของแต่ละบุคคลไม่ได้แบ่งแยกอยู่ที่เพศหญิงหรือเพศชาย ไม่ว่าจะเป็นเพศไหนเราควรใช้ชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมายและมีความมั่นใจในตนเอง”

ที่สำคัญโปรเจคนี้ยังเป็นการรวมตัวครั้งยิ่งใหญ่ของบุคคลมากความสามารถจากทั่วทุกมุมโลกที่จะพลิกหน้าประวัติศาสตร์ของเมืองไทยในสุดยอดงานบรรยาย ‘ดราก้อนฟลาย ซัมมิท’ (Dragonfly Summit) ที่ได้รับเกียรติจาก แม็กกี้ คิว (Maggie Q) นักแสดงสาวสวยชื่อดังจากฮอลลีวูด มาร่วมแชร์ประสบการณ์ด้านการทำงานและการใช้ชีวิตในมุมของผู้หญิงเก่งที่โลดแล่นอยู่ในวงการบันเทิงระดับโลกมากว่า 20 ปี รวมถึง  แพร-อมตา จิตตะเสนีย์, ซินดี้-สิรินยา บิชอพ, แพร-วทานิกา ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา, วู้ดดี้-วุฒิธร มิลินทจินดา, ทิน โชคกมลกิจ, ตั๊น-จิตภัสร์ กฤดากร, เชฟตาม-ชุดารี เทพาคำ และบุคคลชื่อดังระดับโลกอย่างนักแสดงสาว จามีลล่า จามีล (Jameela Jamil), โรเบิร์ต แคนเดลิโน (Robert Candelino) ประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ประเทศไทย และอีกมากมาย ที่จะมาร่วมสร้างจุดเปลี่ยนทางความคิดด้านความเสมอภาค อีกทั้งยังมอบพลังบวกให้คนรุ่นใหม่สามารถดึงศักยภาพภายในของตนเองออกมาได้ ในวันเสารที่ 2 พฤศจิกายน 2562 ที่เซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์

เพราะทุกคนแตกต่างอย่างเท่าเทียม.. งานนี้ไม่อยากให้คุณพลาดร่วมเป็นส่วนหนึ่งของการรวมพลังขับเคลื่อนสังคมไทยไปสู่ความเท่าเทียมทางเพศ และส่งเสริมศักยภาพของผู้หญิง ไปกับโครงการ “ดราก้อนฟลาย 360” (Dragonfly 360) ได้แล้ววันนี้ โดยสามารถติดตามรายละเอียดกิจกรรมต่างๆ ได้ทางเว็บไซต์ https://dragonfly360.co/ โดยสามารถเข้าร่วมงาน ‘ดราก้อนฟลาย ซัมมิท’ (Dragonfly Summit) ผ่านการซื้อบัตรธรรมดาราคา 8,000 บาท และบัตร VIP ราคา 15,000 บาท ผ่านช่องทางhttps://www.ticketmelon.com/DF/dragonflysummit2019