“มิโด” (MIDO) แนะนำเรือนเวลาคอลเลกชั่นล่าสุดที่สะท้อนคาแรกเตอร์

“มิโด” (MIDO) แนะนำเรือนเวลาคอลเลกชั่นล่าสุดที่สะท้อนคาแรกเตอร์
ของแบรนด์แอมบาสเดอร์ซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดหล่อ “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo Hyun)
พร้อมเป็นของขวัญมอบให้กับคนพิเศษในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่นี้

            อบอวลไปด้วยบรรยากาศแห่งความสุขส่งท้ายปีกับช่วงเทศกาลคริสต์มาสพร้อมต้อนรับปีใหม่ ที่หลายคนกำลังมองหาของขวัญชิ้นพิเศษแทนใจที่จะมอบให้กับคนรักหรือคนพิเศษในช่วงเทศกาลสำคัญนี้ ล่าสุด “มิโด” (MIDO) ได้แนะนำเรือนเวลาคอลเลกชั่นสุดโดดเด่นที่สะท้อนถึงคาแรกเตอร์ของแบรนด์แอมบาสเดอร์ซูเปอร์สตาร์หนุ่มสุดหล่ออย่าง “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo Hyun) ประกอบด้วย 3 คอลเลกชั่น ได้แก่ มัลติฟอร์ต เอ็ม โครโนมิเตอร์ (Multifort M Chronometer), โอเชียน สตาร์ ดีคอมเพรสชั่น เวิลด์ไทม์เมอร์ สเปเชียล อิดิชั่น (Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition) และมัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท (Multifort TV Big Date) 
                “มิโด” (MIDO) แบรนด์นาฬิกาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานกว่า 100 ปี นับตั้งแต่ จอร์จ แชแรน (GEORGES SCHAEREN) เริ่มก่อตั้งบริษัท MIDO G.SCHAEREN & CO. AG ขึ้นที่เมืองโซโลธูร์น ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ ค.ศ. 1918 ภายใต้ปรัชญาของการสร้างสรรค์แบรนด์ให้อยู่เหนือกาลเวลาด้วยแนวคิดการออกแบบที่ร่วมสมัย ผ่านการคัดเลือกวัสดุคุณภาพเยี่ยมที่มีความหรูหรา ทนทาน และยังคงไว้ซึ่งฟังก์ชันการใช้งานที่ครบถ้วน

                โดย 3 คอลเลกชั่นที่ทาง “มิโด” (MIDO) แนะนำในครั้งนี้ ได้แก่ มัลติฟอร์ต เอ็ม โครโนมิเตอร์ (Multifort M Chronometer) เรือนเวลาที่ผ่านการรับรองโดยสถาบันทดสอบความเที่ยงตรงของนาฬิกาแห่งสวิตเซอร์แลนด์ (Official Swiss Chronometer Testing Institute หรือ COSC) โดยตัวเรือนถูกขับเคลื่อนด้วยกลไก อัตโนมัติคาลิเบอร์ 80 (Calibre 80) ที่สามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมซิลิคอน บาลานซ์สปริง (Silicon Balance Spring) ที่มีคุณสมบัติด้านความแม่นยำทนทานต่อสนามแม่เหล็ก โดยมีการสลักคำว่า ‘Chronometer’ บนหน้าปัด เพื่อเป็นเครื่องยืนยันถึงความแม่นยำที่เกินกว่าค่ามาตรฐาน โดยมาพร้อมกับรูปลักษณ์อันแข็งแกร่งและดุดัน ด้วยตัวเรือนและสายจากสแตนเลสสตีลที่มีความทนทานเป็นพิเศษ เข้าคู่กับหน้าปัดทรงกลมสีเขียวที่มีการไล่ระดับสีเขียวบริเวณตรงกลางกระจายออกไปด้านข้างกระทั่งกลายเป็นสีดำบริเวณรอบหน้าปัด และเทคนิคการขัดลายซาตินในแนวตั้งอย่างประณีต อีกทั้งยังมีการเคลือบสารเรืองแสงซูเปอร์-ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) สีเบจที่ตัวเข็มนาฬิกาและบริเวณอินเด็กซ์โดยรอบเพื่อช่วยให้อ่านค่าเวลาได้อย่างแม่นยำเมื่อตัดกับพื้นหลังสีเข้ม พร้อมเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้าน และมีช่องระบุวันที่ที่ตำแหน่ง 3 นาฬิกา รวมถึงดีไซน์ฝาหลังแบบเปลือยที่สามารถมองเห็นกลไกการขับเคลื่อนของนาฬิกาได้อย่างงดงาม พร้อมความสามารถกันน้ำลึกในระดับ 10 บาร์ หรือ 100 เมตร 
                ต่อมาที่คอลเลกชั่น โอเชียน สตาร์ ดีคอมเพรสชั่น เวิลด์ไทม์เมอร์ สเปเชียล อิดิชั่น (Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition) ถูกออกแบบมาให้ทนทานต่อทุกสภาวะด้วยตัวเรือนสแตนเลสสตีลขัดเงาที่แข็งแรงทนทานและมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 40.5 มม. บนหน้าปัดพื้นหลังสีน้ำเงินเข้ม สลักโลโก้ ‘MIDO’ แบบดั้งเดิมที่ผ่านการขัดเงามาอย่างพิถีพิถัน โดยนาฬิกาเรือนนี้จะแสดงเวลาการบีบอัดของน้ำที่ระดับความลึก 6 เมตร ซึ่งบ่งบอกจากมาตรวัดวงกลมสีเหลือง สีเขียว สีชมพู และสีน้ำเงิน ที่อยู่บนหน้าปัด พร้อมขอบหน้าปัดแบบหมุนได้จากขอบเบเซิลอะลูมิเนียมสีน้ำเงิน และมีลูกศรสีแดงเพื่อระบุเขตเวลาในการเดินทาง รวมถึงเข็มชั่วโมง นาที และวินาที ที่ได้รับการเจียระไนเป็นทรงเหลี่ยมเพชร พร้อมเคลือบสารเรืองแสง Super-LumiNova® โดยสามารถอ่านค่าวันที่อยู่ตรงตำแหน่ง 3 นาฬิกา ครอบด้วยคริสตัลแซฟไฟร์ในรูปทรงกล่องแก้ว พร้อมสายถักสแตนเลสสตีลและสายสีน้ำเงินที่ผลิตจากยางสำหรับเปลี่ยน โดยได้แรงบันดาลใจจากแฟชั่นในยุค 1960 พร้อมระบบการทำงานอัจฉริยะที่สามารถทำให้เปลี่ยนสายได้อย่างสะดวกสบาย มาพร้อมกับกลไกอัตโนมัติที่มีฟังก์ชัน GMT อีกทั้งยังสามารถสำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง และบาลานซ์สปริง Nivachron™ ที่มีคุณสมบัติในการต้านทานต่อสนามแม่เหล็กและแรงกระแทกที่ยอดเยี่ยม ส่วนในด้านการดำน้ำสามารถกันน้ำได้ลึกในระดับสูงสุดถึง 20 บาร์ หรือ 200 เมตร
ปิดท้ายที่ มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท (Multifort TV Big Date)  เรือนเวลาสุดโดดเด่นที่ได้หยิบยกแรงบันดาลใจจากนาฬิกาที่มีดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์อย่างรูปทรงทีวีที่ถูกเปิดตัวครั้งแรกในปี 1973 ถูกนำมาดีไซน์ใหม่ให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยตัวเรือนรุ่นไฮไลท์มาในดีไซน์สแตนเลสสตีลหน้าปัดรูปทรงทีวี พร้อมกับการตกแต่งหน้าปัดโดยการขัดซาตินแนวนอน เพิ่มความโดดเด่นด้วยการไล่เฉดสีจากสีน้ำเงินไปจนเป็นสีดำเพิ่มมิติความสวยงามยามสะท้อนแสง มีช่องบอกวันที่ขนาดใหญ่ตามแบบฉบับรุ่นบิ๊ก เดท (Big Date) บริเวณตำแหน่ง 12 นาฬิกา อีกทั้งเข็มนาฬิกาทั้งเข็มชั่วโมงและเข็มนาทียังได้รับการเคลือบด้วยสารเรืองแสงซูเปอร์ ลูมิโนวา (Super-LumiNova®) สีขาว ช่วยให้ง่ายต่อการอ่านค่าในที่แสงน้อย ที่มาพร้อมสายนาฬิกาสแตนเลสสตีลสุดคลาสสิกเพื่อความแข็งแรงทนทาน      ขับเคลื่อนด้วยกลไกอัตโนมัติรุ่นใหม่ล่าสุดอย่างคาลิเบอร์ 80 (Caliber 80) ที่สำรองพลังงานได้นานถึง 80 ชั่วโมง พร้อมบาลานซ์สปริงนิวาครอง (Nivachron™) ซึ่งทนทานต่อแรงกระแทกและแรงสนามแม่เหล็กได้อย่างดีเยี่ยม ครอบทับด้วยกระจกหน้าปัดที่ผลิตจากคริสตัลแซฟไฟร์เพื่อความทนทาน อีกทั้งยังเคลือบสารป้องกันแสงสะท้อนทั้งสองด้านอีกด้วย นอกจากนี้ยังสามารถมองเห็นกลไกการทำงานผ่านกระจกด้านหลังตัวเรือนซึ่งเผยให้เห็นชิ้นงานโรเตอร์ขึ้นลานที่ตกแต่งด้วยลวดลายโกตส์ เดอ เฌอแนฟ (‘Côtes de Genève’) พร้อมสลักโลโก้ ‘มิโด’ (MIDO) เอาไว้อย่างงดงาม โดยตัวเรือนมีความสามารถในการกันน้ำลึกได้ถึง 10 บาร์ หรือ 100 เมตร
ด้านแบรนด์แอมบาสเดอร์หนุ่ม “คิม ซู ฮยอน” (Kim Soo Hyun) ยังได้กล่าวแนะนำถึงเรือนเวลาที่น่าสนใจว่า "ในฐานะนักแสดงที่มีประสบการณ์มากมายด้านการแสดงทั้งบทบาททางหน้าจอโทรทัศน์และภาพยนตร์ รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้นำเสนอคอลเลกชั่นมัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท (Multifort TV Big Date) เรือนเวลาที่มีการออกแบบด้วยความสร้างสรรค์ผสมผสานเข้ากับความเทคโนโลยีที่ทันสมัย ซึ่งสะท้อนถึง DNA ของแบรนด์ มิโด (MIDO) ได้อย่างแท้จริง แน่นอนว่าความน่าสนใจและดีไซน์เหนือกาลเวลาของคอลเลกชั่นนี้ จะทำให้ผู้ที่ชื่นชอบในเรือนเวลาดีไซน์คลาสสิก ต้องประทับใจได้อย่างไม่รู้ลืมแน่นอน"
นอกจากนี้ทาง “มิโด” (MIDO) ยังได้แนะนำทริคการเลือกของขวัญมอบให้กับคนพิเศษในช่วงเทศกาลคริสต์มาสและต้อนรับปีใหม่นี้ โดยสามารถเลือกเรือนเวลาตามคาแรคเตอร์ของผู้รับได้ดังนี้ เริ่มที่เลือกเรือนเวลาสำหรับเป็นของขวัญ นักเดินทางและคนรักการทำกิจกรรม อาจจะเลือกเป็นเรือนเวลาดีไซน์สปอร์ต ในโทนสีสันโดดเด่น ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันบอกเวลาแบบเวิลด์ไทม์เมอร์ในการบอกเวลาที่ 2 และฟังก์ชันกรอบเบเซิลสำหรับการจับเวลาสำหรับคนรักการดำน้ำ นอกจากนี้การเลือกฟังก์ชันกันน้ำลึกก็เป็นสิ่งสำคัญด้วยเช่นกัน ต่อมาที่การเลือกเรือนเวลาสำหรับหนุ่มสาวนักธุรกิจวัยทำงาน ควรเลือกจากตัวเรือนที่มีดีไซน์คลาสสิก ในตัวเรือนสแตนเลสสตีลที่มีหน้าปัดโทนสีขาวหรือสีดำ ที่สวมใส่มิกแอนด์แมทช์เข้ากับเสื้อผ้าในโทนสีเบสิกได้ง่าย จะช่วยเสริมบิซิเนสลุคให้ดูมีความภูมิฐานน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น ปิดท้ายที่การเลือกเรือนเวลาสำหรับหนุ่มสาวผู้หลงใหลในดีไซน์คลาสสิก ที่ชื่นชอบความไทม์เลส เหนือกาลเวลา เรือนเวลาดีไซน์เอกลักษณ์ที่มีกรอบตัวเรือนได้แรงบันดาลใจมาจากกรอบทีวี ก็เป็นตัวเรือนที่ช่วยเสริมลุคให้ดูมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ควรเลือกเรือนเวลาจากแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือ อย่างแบรนด์นาฬิกาจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ที่มีมาตรฐานการผลิตและมีการรับรองคุณภาพ ก็จะช่วยการันตี เพิ่มความมั่นใจยามใช้งานได้อีกด้วย
ร่วมเลือกเรือนเวลามอบเป็นของขวัญแทนใจให้กับคนพิเศษในช่วงเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี ด้วยเรือนเวลาในคอลเลกชั่น มัลติฟอร์ต เอ็ม โครโนมิเตอร์ (Multifort M Chronometer), โอเชียน สตาร์ ดีคอมเพรสชั่น เวิลด์ไทม์เมอร์ สเปเชียล อิดิชั่น (Ocean Star Decompression Worldtimer Special Edition) และ มัลติฟอร์ต ทีวี บิ๊ก เดท (Multifort TV Big Date) นาฬิกาคุณภาพมาตรฐานตามแบบฉบับ Swiss made ได้แล้ววันนี้ที่เคาน์เตอร์ “มิโด” (MIDO) เซ็นทรัล, โรบินสัน, เดอะมอลล์ และตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ หรือผ่านช่องทางออนไลน์ MIDO Official Store ใน Shopee และ Lazada และติดตามรายละเอียดเพิ่มเติ่มได้ที่เว็บไซต์  www.midowatches.com Facebook: Mido Watches และ LINE Official Account: @midothailand หรือติดต่อได้ที่เบอร์ 02-610-0200