JustMakeWeb.com รับทำเว็บไซต์ รับทำเว็บโรงแรม รับทำเว็บขายของ รับทำเว็บบริษัท เว็บสำเร็จรูป รับทำเว็บร้านค้า ออกแบบเว็บไซต์ ใช้งานได้ง่าย รองรับ SEO โปรโมท GOOGLE ให้ติดอันดับได้อย่างรวดเร็ว , ลงโฆษณาฟรี VPS ราคาถูก
รับทำเว็บไซต์
0

'ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แนะรับมือกับมลภาวะและ PM2.5


'ธัญ’ (THANN) ร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม
แนะรับมือกับมลภาวะและ PM2.5 สาเหตุของการเกิดสิวและผิวแพ้ง่าย
 
มลภาวะทางอากาศทำร้ายสุขภาพคุณมากกว่าที่คิด หนึ่งในมลพิษที่ลอยในอากาศ (Airborne particulate matter pollution) ที่เป็นปัญหาใหญ่และยากจะจัดการได้อย่าง PM2.5 (Particulate Matter) หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน ซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นทุกปี นับเป็นสิ่งที่เราต้องเผชิญในชีวิตประจำวันที่มิอาจหลีกเลี่ยงได้ และส่งผลเสียต่อระบบทางเดินหายใจ และสุขภาพผิวโดยตรง โดย PM2.5 จะไปทำปฏิกิริยาออกซิเดชั่น (Oxidation) กับชั้นฟิล์มไขมันเคลือบผิว (Sebum) ที่ทำหน้า เสมือนเกราะปกป้องผิวให้เกิดการระคายเคือง อักเสบ อุดตัน นำมาซึ่งปัญหาผิว อาทิ สิว ริ้วรอย รวมถึงความหมองคล้ำ ดังนั้นการทำความสะอาดผิวจึงเป็นจุดเริ่มต้นและเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งสำหรับดูแลและเตรียมผิวให้พร้อมก่อนเข้าสู่ขั้นตอนการฟื้น บำรุงผิวต่อไป
ธัญ’ (THANN) แบรนด์ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผมจากสารสกัดธรรมชาติร่วมกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง แนะวิธี “รับมือกับมลภาวะและ PM2.5 สาเหตุของการเกิดสิวและผิวแพ้ง่าย” กับผลิตภัณฑ์ ‘เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช (Purifying Face Wash), เฟเชียล คลีนเซอร์’ (Facial Cleanser), ‘แอสทริงเจนท์ คลีนซิ่ง วอเตอร์’ (Astringent Cleansing Water), แอสตริเจนต์ โทนเนอร์ (Astringent toner) และดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก’ (Detoxifying Clay Mask) ร่วมกับเซเลบริตี้สาวสวยที่มาเผยเทคนิคดูแลสุขภาพผิวเพื่อรับมือกับฝุ่น PM 2.5 ตามแบบฉบับ ของตนเอง อาทิ สิริน ศรีอรทัยกุล, กมลพร วงศ์รักมิตร และ ชมพูนุท โรจน์ศิริรัตน์

แพทย์หญิงอวิกา รงค์ทอง แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังและความงาม ได้แนะแนะวิธีรับมือกับมลภาวะ และฝุ่น PM2.5 สาเหตุของการเกิดสิวและผิวแพ้ง่ายว่า “มลภาวะและฝุ่น PM 2.5 ยังคงเป็นปัญหาต่อเนื่องที่เราต้องเผชิญกันในปัจจุบัน และมีแนวโน้มที่ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ นอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาต่อระบบทางเดินหายใจ ระบบหัวใจและหลอดเลือดแล้ว ยังส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนัง ทำให้ผิวเกิดการเสื่อมสภาพได้เร็วขึ้น ซึ่งมลภาวะและPM 2.5 สามารถจับตัวกับสารเคมีและโลหะหนักต่างๆ ในอากาศ เมื่อสัมผัสกับผิวหนังจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อการทำงานของเซลล์ผิวทำให้เกิดความผิดปกติกับกลไกการปกป้องผิวจากสภาพแวดล้อมภายนอก รวมถึงส่งผลต่อกระบวนการซ่อมแซมเซลล์ผิว โดยจะไปกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของเซลล์ผิวและทำให้ภูมิต้านทานของผิวแย่ลง ผิวสูญเสียความชุ่มชื้นได้ง่าย เกิดสิว อาการแดงคัน ระคายเคือง ริ้วรอยและจุดด่างดำ ในบางรายอาจเกิดลมพิษขึ้นบริเวณใบหน้า
เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 มีขนาดเล็กกว่ารูขุมขนถึง 20 เท่า จึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่รูขุมขนได้ง่าย ส่งผลกระทบโดยตรงต่อผิวหนังขึ้นอยู่กับระดับความเข้มข้นและระยะเวลาที่ผิวสัมผัสกับฝุ่น PM 2.5 สามารถแบ่งออกเป็น 2 ระยะ คือ
  • ระยะเฉียบพลัน ก่อให้เกิดอาการอักเสบ ระคายเคืองของผิว ทำให้ผิวเสียสมดุลความชุ่มชื้น เนื่องจากฝุ่น PM 2.5 สามารถทำลายเซลล์ผิวชั้นนอก หรือชั้นหนังกำพร้าและทำลายโปรตีนฟิลแลกกริน (Filaggrin) ที่มีหน้าที่ป้องกันผิวหนัง (Epidermal barrier protein)
  • ระยะเรื้อรัง PM 2.5 กระตุ้นให้เกิดอนุมูลอิสระรบกวนการทำงานของเซลล์ผิว ทำให้ผิวเสื่อมเร็วกว่าปกติ ทำลายคอลลาเจน ผิวจึงเกิดความเหี่ยวย่น ริ้วรอย รวมถึงกระตุ้นให้ผิวผลิตเม็ดสีซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดฝ้า กระ และจุดด่างดำ
หากสัมผัสฝุ่น PM 2.5 เพียง 10 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ช่วงเวลาไม่เกิน 2 ชั่วโมง ก็สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบของผิวหนังได้แล้ว และหากต้องเผชิญกับฝุ่นละอองระดับ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะก่อให้เกิดภาวะความชราของผิว รวมถึงการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของผิวลดลง
สำหรับคนที่มีสภาพผิวมัน อาจพบปัญหาการอุดตันของรูขุมขน ทำให้เป็นสิวได้ง่ายขึ้น รวมถึงคนที่มีสภาพผิวอ่อนแอและแพ้ง่าย ผิวมักจะเกิดผด ผื่น ร่วมกับอาการคันและระคายเคืองได้ง่าย นอกจากผิวหน้าแล้ว ผิวบริเวณอื่นของร่างกายอย่างข้อพับก็สามารถเกิดผื่นแดงคันได้ด้วยเช่นกัน
การป้องกันผลกระทบจากมลภาวะและฝุ่น PM 2.5 นอกจากการสวมหน้ากากอนามัยแล้ว ควรอาบน้ำชำระร่างกายเมื่อกลับเข้าที่พักทันที รวมถึงให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวหน้าเป็นพิเศษ โดยเฉพาะผู้ที่แต่งหน้าควรล้างคราบเครื่องสำอางบนผิวให้สะอาดด้วยผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนและเหมาะกับแต่ละสภาพผิว สามารถใช้ร่วมกับมาส์กที่มีคุณสมบัติในการดูดซับสิ่งสกปรกตกค้างและความมันส่วนเกินของผิว สัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง ควรปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนด้วยการใช้โทนเนอร์หลังการล้างหน้าทุกครั้ง นอกจากจะเป็นการทำความสะอาดหลังการล้างหน้าแล้วยังถือเป็นเตรียมผิวให้พร้อมสำหรับขั้นตอนรับการบำรุงต่อไปอีกด้วย
ส่วนเกณฑ์การเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดผิวหน้า นอกจากคุณสมบัติในการทำความสะอาดผิวแล้ว ควรมีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการบำรุงและปกป้องผิวด้วย เช่น สารสกัดจากชิโซะ (Shiso extract) ที่มีความโดดเด่นในด้านการให้ความชุ่มชื้น ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพของผิว อีกทั้งยังช่วยยับยั้งกระบวนการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin), น้ำมันข้าว (Rice Ban Oil) อุดมด้วยกรดไขมันที่เป็นประโยชน์, วิตามิน อี และสารแกมม่าออริซานอล (Gamma-Oryzanol) มอบความชุ่มชื้นพร้อมคุณสมบัติเป็นสารต้านอนุมูลอิสระทรงประสิทธิภาพ ปกป้องผิวจากมลภาวะเป็นต้น
นอกจากนี้ควรเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งผัก ผลไม้หลากสี รวมถึงงดการทำกิจกรรมหรือออกกำลังกายกลางแจ้ง โดยสามารถปรับเปลี่ยนมาออกกำลังในร่มแทน นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ควรดื่มน้ำสะอาดในระหว่างวันให้มากๆ รวมถึงหมั่นสังเกตตัวเองอยู่เสมอ หากผิวเกิดตุ่มผื่นที่มีลักษณะนูนแดง กระจายบนผิวหนัง รอบดวงตา มีอาการตาแดง เปลือกตาบวม มีน้ำตาไหล ใต้ตาช้ำมีสีคล้ำร่วมกับอาการที่เกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ เช่น อาการคัน แน่นในโพรงจมูก แน่นหน้าอก ไอ จาม มีน้ำมูกใสๆ อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณเตือนถึงอาการแพ้ฝุ่น PM2.5 ดังนั้นควรรีบเข้าพบแพทย์โดยทันที”

ธัญ’ (THANN) ผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ผสานคุณค่าแห่งพืชพรรณจากแหล่งธรรมชาติชั้นดีทั่วโลก และเทคโนโลยีอันทันสมัย ตลอดระยะเวลา 19 ปีที่ผ่านมา THANN มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ธรรมชาติผสานเทคโนโลยีชั้นนำ ผ่านการทดสอบจากสถาบันวิจัยที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลอย่าง Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France), Skinnova Lab Co.,Ltd. และ Dermscan Asia อาทิ Dermatological test, Irritation test และ Efficacy test เพื่อยืนยันในคุณภาพและประสิทธิภาพ เพื่อการดูแลสุขภาพผิวและเส้นผม ขอแนะนำกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ออกมาเพื่อฟื้นฟูสภาพผิวโดยเฉพาะ อุดมด้วยคุณประโยชน์ของ สารสกัดธรรมชาติจาก น้ำมันรำข้าว (Rice Bran Oil) และสารสกัดจาก ชิโซะ (Shiso) ที่มีจำหน่ายในร้านและเคาน์เตอร์ ธัญ’ (THANN) กว่า 100 สาขาในทวีปเอเชีย อเมริกา และยุโรป
น้ำมันรำข้าว” (Rice Bran Oil) สิ่งมหัศจรรย์ใกล้ตัวที่ให้คุณประโยชน์ต่อร่างกาย เป็นที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายทั้งด้าน โภชนเภสัช อาหาร หรืออุตสาหกรรมความงาม อุดมด้วยวิตามินอีในกลุ่มโทโคไตรอีนอล (Tocotreienol) และโทโคฟีรอล (Tocopherol) รวมถึงสารแกมม่า-ออริซานอล (Gamma-Oryzanol) ซึ่งพบเฉพาะในน้ำมันรำข้าวเท่านั้น มีคุณสมบัติเป็นสารแอนตี้ ออกซิแดนท์ได้ดีกว่าวิตามินอีทั่วไปถึง 6 เท่า รวมถึงปกป้องเซลล์ผิวจากการถูกแสงแดดทำลาย ช่วยฟื้นฟูผิวให้ชุ่มชื้น ซึมซาบสู่ผิว ได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ และไม่อุดตันรูขุมขน
ชิโซะ” (Shiso) พืชที่อุดมด้วยสารสำคัญอันมีประโยชน์ อาทิ เช่น  โรสแมรินิค แอซิด (Rosemarinic Acid), แอล-เพอริลลาดีไฮด์ (L-Perilladehyde) และฟีนอล คอมพาวด์  (Phenol Compound) โดดเด่นในการให้ความชุ่มชื้น ปกป้องและฟื้นฟู เซลล์ผิวจากความแห้งกร้านและการเสื่อมสภาพ อีกทั้งยังเป็นสารแอนตี้ออกซิแดนท์ทรงประสิทธิภาพ โดยไม่ก่อให้เกิดอาการ ระคายเคือง ด้วยสัดส่วนของวิตามิน A (มากกว่าผลกีวีถึง 300 เท่า),วิตามิน C (มากกว่าผลเลมอนถึง 160 เท่า) และวิตามิน E สูง พร้อมวิตามิน B1, B2, B6, K, แร่ธาตุและโปรตีนหลากชนิด สารสกัดจากชิโซะยังมีคุณสมบัติยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส (Tyrosinase Inhibitor) ในกระบวนการสร้างเม็ดสีเมลานิน (Melanin) และด้วยคุณสมบัติอันโดดเด่นของสารสกัดจากชิโซะนำมาผ่าน กระบวนการสกัดด้วย “นาโนเทคโนโลยี” ปราศจากการใช้สารเคมีจากประเทศญี่ปุ่น เพื่อให้ได้อนุภาคขนาดนาโนเมตร (10-9) ทำให้ได้อนุภาคขนาดเล็กสามารถซึมเข้าสู่ชั้นหนังแท้ (Dermis) เกิดประสิทธิภาพการบำรุงอย่างล้ำลึก

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสำหรับดูแลผิวให้พร้อมรับมือกับมลภาวะรวมถึง PM 2.5 ได้แก่ ‘เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช (Purifying Face Wash) ขนาด 200 มล. ราคา 950 บาท ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้า ขจัดสิ่งสกปรกและความมันส่วนเกิน ได้อย่างหมดจด พร้อมคืนความกระจ่างใสสู่ผิว อุดมด้วยสารสกัดธรรมชาติที่มอบคุณค่าในทำความสะอาดและบำรุงผิว อาทิ น้ำมันมะพร้าวออแกนิค (Organic coconut oil), สารสกัดจากข้าวออแกนิค (Organic rice extract), สารสกัดจากต้นไผ่ (Bamboo extract), สารสกัดวิชฮาเซล (Witch Hazel water) และสารสกัดถั่วเลนทิล (Lentil extract)

เฟเชียล คลีนเซอร์’ (Facial Cleanser) ขนาด 200 มล. ราคา 950 บาท ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าสูตรอ่อนโยน พร้อมรักษาสมดุลความชุ่มชื้นตามธรรมชาติของผิว ซึ่งปราศจากฟองและสารอัลคาไลน์ (Non-alkaline) อีกทั้งยังมีค่า pH ที่ 5.5 - 6.5 ที่อยู่ในระดับเดียวกับผิว ด้วยคุณค่าสารสกัดจากใบชิโซะอนุภาคขนาดเล็ก (Nano shiso extract) และสารสกัดจากใบชาเขียว (Green tea extract) ผ่านการทดสอบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนังว่าเหมาะสำหรับผู้ที่มีผิวบอบบางหรือแพ้ง่าย

แอสทริงเจนท์ คลีนซิ่ง วอเตอร์’ (Astringent Cleansing Water) ขนาด 210 มล. ราคา 1,000 บาท ผลิตภัณฑ์ทำความ สะอาดเครื่องสำอางได้อย่างหมดจด แม้เครื่องสำอางชนิดที่ล้างออกยาก อ่อนโยนต่อทุกสภาพผิว โดยไม่ทิ้งความมัน ผิวไม่แห้งตึง พร้อมมอบคุณค่าการบำรุงผิวด้วยคุณค่าของสารสกัดธรรมชาตินานาชนิด อาทิ น้ำสกัดจากดอกลาเวนเดอร์ ออแกนิค (Organic lavender water), สารสกัดจากว่านหางจระเข้ ออแกนิค (Organic aloe vera juice powder), สารสกัดจากเซลล์ต้นกำเนิดข้าวแดง (Rice callus culture extract)

แอสตริเจนต์ โทนเนอร์’ (Astringent Toner) ขนาด 135 มล. ราคา 900 บาท โทนเนอร์ช่วยกระชับรูขุมขน และคืนความ สมดุลของผิวหลังล้างหน้า มีส่วนผสมจากพืชพรรณธรรมชาติ อาทิ สารสกัดจากใบชิโซะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ผิว และต่อต้านสาร อนุมูลอิสระ, โปรตีนและแร่ธาตุสำคัญในสารสกัดจากสาหร่ายช่วยคืนความยืดหยุ่นแก่ผิว, สารสกัดจากชาเชียวช่วยปลอบประโลมผิวให้มีสุขภาพดี และสารสกัดจากยีสต์ ช่วยรักษาสมดุลการทำงานของต่อมไขมันในผิว

ดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก’ (Detoxifying Clay Mask) ขนาด 100 กรัม ราคา 1,200 บาท มาส์กสูตรดีท็อกซ์ผิวจาก โคลนธรรมชาติ 3 ชนิด ได้แก่ ทานากุระ เคลย์ (Tanakura Clay) จากประเทศญี่ปุ่น, เกาลิน เคลย์ (Kaolin Clay) และเบนโทไนต์ เคลย์ (Bentonite Clay) สามารถควบคุมความมันส่วนเกิน (Oil Control) ได้ยาวนานถึง 6 ชั่วโมง และรูขุมขนเล็กลง 19.1%* พร้อมขจัด สิ่งสกปรกตกค้างออกจากรูขุมขนได้อย่างดีเยี่ยมด้วยคุณค่าสารสกัดธรรมชาติ อาทิ สารสกัดจากแตงกวา (Cucumber) และกุหลาบ (Rose) (* ทดสอบด้วยวิธี Visual grading และ Sebumetry กับกลุ่มผู้หญิงเอเชีย จำนวน 22 คน โดยใช้ผลิตภัณฑ์สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ระยะเวลา 4 สัปดาห์ ทำการทดสอบโดยสถาบัน Spincontrol Asia Co.,Ltd. (France)*)

ด้านเซเลบริตี้สาวสวยต่างร่วมทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ พร้อมเผยเทคนิคดูแลสุขภาพผิวเพื่อรับมือกับฝุ่น PM 2.5 ตามแบบ ฉบับของตนเอง เริ่มที่ผู้บริหารรุ่นใหม่ สิริน ศรีอรทัยกุล เผยว่า “ปกติแล้วแพมชอบทำกิจกรรมกลางแจ้งอย่างการเล่นเวค เซิร์ฟ เพราะรู้สึกสนุกและได้ออกกำลังกายอย่างเต็มที่ แต่ช่วงนี้มลภาวะและฝุ่น PM2.5 มีปริมาณสูงขึ้น จึงต้องงดการทำกิจกรรมกลางแจ้ง เนื่องจากแพมเป็นคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย จึงมักมีอาการแพ้อากาศเมื่อต้องเผชิญกับฝุ่น PM 2.5 ทำให้เกิดอาการคันบริเวณแขนและขา มีผื่นแดงขึ้นบริเวณใบหน้า ผิวแห้งลอก ดังนั้นแพมจึงเน้นให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวอยู่เสมอเมื่อกลับมาถึงที่พัก อย่างผิวหน้าแพมเลือกใช้ แอสทริงเจนท์ คลีนซิ่ง วอเตอร์ สำหรับเช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกตกค้างบนผิวได้อย่างสะอาดหมดจด และในระหว่างสัปดาห์ก็จะใช้ ดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก เพื่อดีท๊อกซ์ผิวจากสิ่งสกปรกตกค้างและความมันส่วนเกิน ข้อดีของมาส์กตัวนี้คือไม่ทำให้ผิวแพมแห้ง เพราะมีส่วนผสมของน้ำมันรำข้าวและสารสกัดธรรมชาติที่ช่วยคงความชุ่มชื้นให้ผิวได้เป็นอย่างดี ส่วนกิจกรรมที่ทำบ่อยๆ ช่วงที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 มากก็จะเป็นการเล่นบอร์ดเกมที่มีทั้งเกมประเภทวางแผนหรือเกมที่สามารถเล่นได้กับครอบครัว ถือเป็นการใช้เวลาว่างโดยไม่ต้องออกไปเจอมลภาวะข้างนอกด้วย”

ถัดมาที่คุณแม่ยังสาว กมลพร วงศ์รักมิตร เล่าว่า “ช่วงนี้หมิวรู้สึกว่าปริมาณมลภาวะและฝุ่น PM2.5 สูงขึ้นต่อเนื่องทุกวัน ซึ่งส่งผลโดยตรงกับร่างกายเราเป็นอย่างมาก เนื่องจากหมิวและครอบครัวก็เป็นโรคภูมิแพ้อากาศด้วย หากต้องเผชิญกับฝุ่น PM 2.5 ก็จะมีทั้งอาการไอ จาม และตุ่มผื่นขึ้นตามผิวหน้า ผิวกาย เราจึงต้องใส่ใจการดูแลตัวเองเป็นพิเศษตั้งแต่เลือกสวมใส่เสื้อผ้าที่มิดชิด สวมหมวก แว่น หน้ากากอนามัย ทุกครั้งที่ต้องออกไปข้างนอก ยิ่งช่วงนี้มลภาวะและฝุ่น PM 2.5 เยอะมาก ก็จะอยู่แต่ในบ้านตลอด รวมถึงใช้เครื่องฟอกอากาศ เพื่อลดปริมาณฝุ่นภายในบ้าน ส่วนการดูแลสุขภาพผิวหากต้องเผชิญกับมลภาวะและฝุ่น PM 2.5 หมิวจะให้ความสำคัญกับการทำความสะอาดผิวโดยเฉพาะผิวหน้าด้วยผลิตภัณฑ์ เฟเชียล คลีนเซอร์ นอกจากช่วยทำความสะอาดผิวแล้วยังช่วยรักษาสมดุลความชุ่มชื้นให้กับผิว หากวันที่แต่งหน้าก็จะใช้ แอสทริงเจนท์ คลีนซิ่ง วอเตอร์ สำหรับเช็ดคราบเครื่องสำอาง และทุกครั้งหลังการล้างหน้าก็จะใช้ แอสตริเจนต์ โทนเนอร์ เช็ดทำความสะอาดอีกครั้ง เพื่อปรับสภาพผิวและกระชับรูขุมขนก่อนทาครีมบำรุงผิวตามปกติ และหมิวยังให้ความสำคัญเรื่องการเลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ดื่มน้ำสะอาดให้เพียงพอต่อวัน รวมถึงการทานวิตามินเพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย”

ปิดท้ายที่สาวผิวสวย ชมพูนุท โรจน์ศิริรัตน์ กล่าวว่า ช่วงเปลี่ยนผ่านฤดูเรามักพบเจอกับปัญหามลภาวะและปริมาณฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน นอกจากเราต้องป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยทุกครั้งที่ต้องออกนอกสถานที่แล้ว อีกสิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือการลดเวลาทำกิจกรรมกลางแจ้งในช่วงที่มีค่าฝุ่น PM 2.5 สูงด้วย แต่หากหลีกเลี่ยงไม่ได้สิ่งแรกเมื่อกับถึงบ้านคือควรรีบล้างทำความสะอาดผิวทันที ซึ่งจะเน้นเรื่องการทำความสะอาดผิวหน้ามากที่สุด ส่วนตัวจะเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสารสกัดธรรมชาติที่มีคุณสมบัติในการทำความสะอาดและบำรุงผิว โดยจะแบ่งประเภทของผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับการใช้งาน ตัวอย่างเช่นวันไหนที่ไม่ต้องแต่งหน้าก็จะเลือกใช้ เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช ล้างทำความสะอาดผิวหน้า หากวันไหนที่แต่งหน้าก็จะเลือกใช้ แอสทริงเจนท์ คลีนซิ่ง วอเตอร์ เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอาง ตามด้วยการใช้ แอสตริเจนต์ โทนเนอร์ เช็ดสิ่งสกปรกตกค้างที่อาจหลงเหลืออยู่ และเป็นการปรับสภาพผิวให้พร้อมสำหรับรับขั้นตอนการบำรุงต่อไปด้วย นอกจากนี้โบว์ก็จะหาเวลามาส์กหน้าด้วย ดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก เพื่อดีท๊อกซ์ผิวสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง โบว์คิดว่าหากผิวเราแข็งแรง หากต้องเผชิญกับมลภาวะหรือฝุ่น PM 2.5 เยอะแค่ไหน ผิวก็ยังคงสวยดูมีสุขภาพดีได้”
เผยผิวสะอาดกระจ่างใสกับกลุ่มผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและดีท็อกซ์ผิวหน้า อาทิ ‘เพียวริฟายอิ้ง เฟซ วอช (Purifying Face Wash), เฟเชียล คลีนเซอร์’ (Facial Cleanser),  ‘แอสทริงเจนท์ คลีนซิ่ง วอเตอร์’ (Astringent Cleansing Water), แอสตริเจนต์ โทนเนอร์ (Astringent toner) และดีท็อกซิฟายอิ้ง เคลย์ มาส์ก’ (Detoxifying Clay Mask) ได้แล้ววันนี้ที่ ออนไลน์สโตร์  www.thann.co.th (ส่งฟรีทั่วประเทศ) และร้าน ‘ธัญ’ (THANN) ทั้ง 12 สาขาทั่วประเทศ อาทิ สาขาสุขุมวิท 47, ชั้น 2 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์, ชั้น 3 ศูนย์การค้าเกษรวิลเลจ, ชั้น 5 ศูนย์การค้าดิเอ็มโพเรียม, ชั้น 1 และชั้น 4 ศูนย์การค้าสยามพารากอน, ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์, ชั้น 4 ไอคอน สยาม, ร้านวูว์ ถนนเจริญราษฎร์ และสาขาถนนพระปกเกล้า (ตรงข้ามวัดเจดีย์หลวง) จังหวัดเชียงใหม่, สาขาป่าตอง (หน้าโรงแรม La Flora ป่าตอง) จังหวัดภูเก็ต และ ธัญ เวลเนส เดสทิเนชั่น จ.พระนครศรีอยุธยา